ศรีลังกา อารยธรรมแห่งชมพูทวีป
ตอน 1 สวัสดีศรีลังกา

งานนี้ ฉุกละหุกเหมือนหลายครั้ง มีเวลาเพียงไม่ถึง 10 วันหลังทราบว่าต้องไปประชุม แค่คิดว่าเป็นอีกโอกาส ไม่คิดว่าจะยากขนาดนั้น การไปต่างประเทศคนเดียว และยังเป็นตัวแทนของประเทศไทยด้วย ก็หนักใจอยู่ ดีที่ทุกอย่าง ราบเรียบมาก ไม่ติดปัญหาใดๆ เป็นอันว่าเราเริ่มกันที่ ท่าอากาศยานานาชาติ สุวรรณภูมิของเราเลย ก่อนนี้ สองวันผมโทร.นัดแท็กซี่ที่เคยมารับเดือนก่อนตอนไปสิงคโปร์ พักอยู่คอนโดติดกันนี่เอง ผมบอกว่าต้องไปถึงสุวรรณภูมิ 7 โมงเช้า พี่เขานัดเลย ตี 5.30 น. บอกถ้าไม่ลงมาโทรปลุกด้วย ผมนินอนไม่หลับเลยทีนี้ ตื่นตอนตี 4 ก็ไม่กล้านอนอีก แล้วเราก็ออกได้ตอน ตีห้าครึ่ง ขึ้นทางด่วน ก็รถเต็มไปหมดเพราวันจันทร์คนเข้ากรุงเทพฯ เยอะ แต่ไปถึงราว หกโมง20 ไวมาก แต่ตะวันขึ้นแล้ว (1) แต่สายการบินเขาเปิดเช็คอินแล้วก็เช็คอินเลย จะได้ส่งสัมภาระไปก่อน ตื่นไวก็หิวไว หาแซนวิชทูน่าและนมทานเป็นอาหารเช้าที่ร้านแฟมิลี่มาร์ท ซึงราคาไม่แพงมาก พออิ่มก็เข้ามาชมข้างในกันครับ ตอนเช็คอิน เขาจะให้ใบกรอกรายละเอียด ผมถือพาสปอร์ตราชการ จะมีประตูใต้บันไดที่ เป็นทางพิเศษ ทำให้ไม่ต้องเบียดกับผู้โดยสารทั่วไป ช่องทางนี้สำหรับนักบิน บุคคลพิเศษ ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และราชการ ซึ่งรวดเร็วขึ้น แต่ยังตรวจเหมือช่องทางปกติ นี่เป็นทางไปประตูขึ้นเครื่อง(2) ที่จะแยกไปอีกหลายประตู ศาลาไทยเป็นจุดถ่ายรูปที่นิยม ใครที่ไม่รีบสามารถชอปได้มากมาย (3) โดยยกเว้นภาษี การจัดร้าน และพื้นที่ดูไฮโซมากถ้าเทียบกับประเทศอื่น ทางลงไปห้องรอขึ้นเครื่อง ก็โอ่โถงดูดี(4)

(1) (2) (3) (4)

ได้เวลาขึ้นเครื่องก่อนเครื่องออกราว 40 นาที ปกติผมจะนั่งริมหน้าต่าง แต่วันนี้ไม่ได้ ที่นั่งเหลือแค่หลังสุดซึ่งเกรงจะไม่ค่อยสะดวก เลยมานั่งหน้า ไม่มีภาพท้องฟ้ามาให้ดู สักพักก็มีการเสริฟอาหารแบบศรีลังกา(5) เป็นข้าวแกงกะหรี่ไก่ โยเกิร์ต และผลไม้ รสไม่จัดจ้านทานได้สบาย เมื่อมาถึงสนามบินจะต้องผ่านพิธีทางศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง ระหว่างทางมีร้านปลอดภาษี ซึ่งเป็นตู้กระจกวางของ ใครชอบก็แวะได้ ผมไปตรวจคนเข้าเมืองก่อน เราได้รับแจกให้กรอกเอกสารเข้าเมืองบนเครื่องบิน ผมมาก่อนเลยไม่ต้องเข้าคิว เห็นช่องเจ้าหน้าที่ (Officer) ซึ่งเหมือนช่องพิเศษของเจ้าหน้าที่ หันไปยิ้มเขาก็เรียกไปตรวจให้ ไวดี จริงๆ เราไม่มีสิทธิ์หรอกครับ ไม่ใช่เจ้าหน้าทีเขา ดีเลยไม่ต้องเข้าคิว แต่รอกระเป๋า นานมาก(นานทั้งลำ) (7) ได้กระเป๋าผมแวะแลกเงิน โดยใช้ดอลล่าร์อเมริกา แลกได้ ดอลล่าร์ละ 145 รูปี (ประมาณ 4.25 รูปี=1 บาท ถ้าไม่มีดอลล่าร์ควรแลกมาจากไทย) ออกมาพบว่ามีคนรอรับจากโครงการแล้ว รอผู้ร่วมประชุมเป็นดอกเตอร์จากสิงคโปร์ ซึ่งลงมาหลังผมครึ่งชั่วโมง ที่นี่มีไวไฟฟรี โดยใช้ชื่อ และหมายเลขพาสปอร์ต ทำเช็คอินเฟสบุคหรือไลน์ได้ คนครบสองคนก็พามาส่งโรงแรมด้วยรถตู้ (8-9) ขับมาโดยทางด่วนประมาณ 45 นาที ผ่านพื้นที่แบบนี้ (10) ยังธรรมชาติเยอะ ห่างจากกรุงโคลัมโบมากราว 50 กว่ากิโลเมตร (11)

(5) (6) (7) (8) (9) (10) (11)

โรงแรมที่พักเป็นโรงแรม ฮิวตั้น เรสสิเเด้นท์ (12-ภาพจากกูเกิ้ลครับ ผมไม่ได้ถ่ายมุมนี้) โรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งผมไม่ค่อยมีโอกาสพักนัก มาดูห้องกันก่อนนะคับ เป็นห้องสวีท (Suite Room - อ่านว่า ซู-อิทฺ เมื่ออ่านไวๆ จะออกเสียงเหมือน สวีท) เป็นห้องชุด มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องอาหาร 1 ห้องรับแขก(ห้องนั่งเล่น) ห้องนอนหลัก (13-14) กว้าง และวิวดี มีทีวีจอใหญ่ให้ดู ในห้องนี้มีห้องแต่งตัว มีชุดนอน รองเท้า ตู้เซฟ ฯลฯ มีห้องน้ำทีอุปกรณ์เยอะๆ (15-16) และวิวดี อีก 2 ห้องประมาณนี้ (17) ห้องน้ำอยู่นอกอีกห้อง (18) มีห้องครัวใหญ่ที่ทำอาหารได้เลี้ยงแขกได้เพราะมีอุปกรณ์ครบ (19-20) พร้อมตู้เย็น 10 คิว เตาอบใหญ่ จานชามแก้ว 2 ตู้ และชุดกาแฟ มีโต๊ะทำงาน (21) ห้องทานอาหาร (22) พร้อมอาหารว่างและน้ำ (23) ห้องนั่งเล่นที่รับแขกได้หลายคนพร้อมทีวี 55 นิ้วและเครื่องเล่นบลูเรย์ มีอีกเยอะอ่าครับ ประมาณนี้ละกัน  

(12) (13) (14) (15) (16) (17) (18) (19) (20) (21) (22) (23) (24)

วิวจากห้องชั้น 22 ครับ ถ่ายจากระเบียงห้องรับแขกด้วยไอโฟน มองเห็นโลตัสทาวเวอร์ (25) ซึ่งเป็นของโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง และจะกลายเป็นเสากระจายสัญญาณและแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ห่างออกไปเป็นหาด ท่าเรือ และพื้นที่ทหาร(26) และทางขวาจะเป็นวิวของบ้านเรือน (27) ปลั๊กไฟที่ศรีลังกา ใช้แบบนี้นะครับ (28) เตรียมมาเป็นแบบกลมใช้ไม่ได้เลย ดูในเน็ตเห็นเป็นแบบกลม หรือเรียงเป็นแถว อาจพบในแถวโรงแรมที่พักโบราณหน่อย แต่แบบนี้เป็นมาตรฐานที่ใช้ในปัจจุบันครับ ยังโชคดีที่ในห้องน้ำมีปลั๊กแบบแบน เพราะไม่ว่าที่ไหน ที่โกนหนวดก็ใช้ปลั๊กแบน ผมเอาปลั๊กต่อมาใช้ในห้องสำหรับชาร์ตมือถือ ไอแพด และโน๊ตบุคได้

(25) (26) (27) (28)

เนื่องจากไม่ได้นอน เลยง่วงมาก น้องที่มารับบอกว่าวันนี้ฟรีเดย์ หลังจัดการของว่างบนโต๊ะ ขอนอนพักสักหน่อย เดี๋ยวเราไปเดินดูบ้านดูเมืองกันต่อครับ

<กลับตอนแรก | ศรีลังกา | ตอนต่อไป>

| Trironk.net |ท่องโลก | ศรีลังกา |