ออสเตรเลียแดนในฝัน
หน้า 6 ลุยราตรีซิดนี่ย์, เริ่มฟังภาษาอังกฤษออกแล้ว
ลุยราตรีซิดนี่ย์
วันศุกร์ เป็นการทบทวนเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจของออสเตรเลีย ส่วนมากพูดระบบภาพรวม (Macro) เย็นวันนี้ ก็ต้องทำอาหารกิน เสียเวลาเยอะ ก็คนทำอาหารไม่เป็น แต่อร่อยดี วันเสาร์ที่ 1 มิย. ต้องเรียนแทนวันพฤหัส เรียนเศรษฐศาสตร์ กับการพัฒนาประเทศออสเตรเลีย บ่ายๆ ไปเดินเลือกซื้อของ และเดินเล่นในแมคควอรี่เซ็นเตอร์ แล้วก็ไปในตัวเมืองซิดนี่ย์ ซื้อของที่พี่ๆ ฝากซื้อ อย่างเช่น ร้านเดวิดโจนส์ ได้พวกสบู่เหลว วิตามินอี อะไรพวกนี้ จำเป็นต้องใช้ เพราะผิวมันแตกแห้ง ต้องการโลชั่น 5-6 โมงเย็นก็ปิดกันหมดแล้ว ตกค่ำเราก็ลุยราตรีย่านคิงส์ครอสกัน ถือว่าเป็นย่านกลางคืน ที่นี่กลางวันจะเงียบ กลางคืนจะเต็มไปด้วยแสงสีแบบพัฒน์พงษ์ ในกรุงเทพฯ มีสถานเริงรมย์เรต A (A= Adult บ้านเราเรียก เรต X หรือ R) มีร้านสำหรับผู้ใหญ่ (Adult Shop) ให้ชอปปิ้งกันเยอะแยะ จริงๆ แล้ว ตั้งใจจะไปทานข้าวเย็นกัน ที่นี่มีร้านชื่อ ผัดไทย อร่อยดี ไปกัน 9 คน หนุ่มๆ ทั้งหมด อร่อยดีใช้ได้ แล้วก็เริ่มเดินดูแสงสี ถนนนี้ ยาวแค่ราว 200 เมตร กระมัง เดี๋ยวเดียวก็หมด เลยแวะดู Adult Shop 2 ร้าน เป็นพวกของเล่นผู้ใหญ่ (เพื่อเซ็กซ์) หนังสือนู้ด วิดิโอ อะไรพวกนี้ ไม่มีใครกล้าซื้ออะไรเลย แล้วไปดูระบำเปลือยสาวออสซี่ สวยมาก เธอมีสิทธิ์ จับต้องคุณได้ แต่ถ้าคุณจับเธอ โดนปรับเยอะ ที่นี่ค่าบัตรเป็นหมู่คณะ ต่อรองได้ด้วย แล้วก็กลับราว 23.00 น เพราะมีรถเที่ยวสุดท้ายแค่นั้น
แสดงสีในย่านคิงส์ครอส ที่เต็มไปด้วยสถานเริงรมณ์
และที่นี่จะเห็นร้านสำหรับผู้ใหญ่หลายร้าน
วันที่ 2 มิถุนายน วันอาทิตย์ สายๆ ไปแพดดี้ คล้ายจตุจักรบ้านเรา แต่ไม่กว้างเท่า จะเป็นที่ขายของที่ระลึก ของขายเป็นโหล ของใช้ เสื้อผ้า ที่นี่เป็นสาขาแรก อยู่ย่านไชน่าทาวน์ คือย่านคนจีน ที่น่าสนใจของผมคือกุญแจ ตุ๊กตาหมีโคล่าตัวเล็กๆ กลุ่มที่ไปก็ได้ของเยอะแยะ ผมขอชมเมืองต่อมาขึ้นโมโนเรล เป็นรถไฟฟ้าลอยฟ้ารางเดี่ยว ไปเซอคูล่าคีย์ เพื่อดูเมืองใต้น้ำอควอเรี่ยม แสดงปลาของออสเตรเลีย น่าสนใจดี มีอุโมงแก้ว ให้เราลอดเข้าไปดูใต้น้ำ ได้ชมปลาตัวโตๆ สวยๆ ใกล้ๆ ด้วย ผมเอาเป้หลังไปด้วย หมอสุพจน์ฝากทั้งของฝากและหนังสือ หนักมาก เลยผลัดกันหิ้ว เลยออกจะลำบากในการชมรายการที่น่าสนใจ ที่ชั้นบน มีฝนตกพรำๆ ตลอด เราหยิบแผ่นพับมาดู มีภาษาไทยด้วย ท่าทางคนไทยจะไปเที่ยวที่นี่กันเยอะ จนมีบริการด้วยภาษาไทย ค่าบัตร 15A$ ต่อคน แต่ถ้า 10 คน 11.25 A$ ต่อคน เลยไปจีบนักท่องเที่ยวเกาหลีแถวนั้นมา 1 คน เพราะไปกัน 9 คน เธอก็ดีใจ ขอบอกขอบใจใหญ่ ไปบอกเพื่อนๆ ได้มารวม 14 คน แต่เข้าไปก็แยกกัน ฝนตกนักก็รำคาญ บ่ายๆ ก็รีบกลับกัน เริ่มฟังภาษาอังกฤษออกแล้ว
วันที่ 3 มิย. เรียนเกี่ยวกับ Biodiversity (ความหลากหลายทางพันธุกรรมของชีวิตพืชสัตว์) เป็นวันแรกที่ดูรู้เรื่องขึ้นบ้าง ฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องมาก จนประหลาดใจ ในขณะที่คนอื่นๆ ที่จบออสเตรเลีย บ่นว่าฟังไม่รู้เรื่อง มีหมอสุพจน์ จบแพทย์ศาสตร์ และไตรรงค์ จบพยาบาลศาสตร์ ที่เคยชินกับศัพท์เพราะเรียนมาบ้าง เป็นฝ่ายอธิบายสรุปให้หลังเรียนบ้าง เฮ่ย! รู้สึกว่า ข้าพเจ้านี่ก็พอจะเรียนได้นะเนี่ย ก้อเลยเริ่มมั่นใจขึ้น หมอสุพจน์บอกว่า ทีผ่านมาเราฟังไม่ออก เพราะไม่ใช่สาขาที่เราเรียน ศัพท์เลยไม่คุ้นเคยบ่ายๆ ไปทัศนศึกษาที่ คัมเบอร์แลนด์ เป็นป่ากลางเมืองซิดนี่ย์ ที่เขาอนุรักษ์ไว้ศึกษาโดยเฉพาะ คงเทียบกับกรุงเทพฯ ก็อยู่แถวรังสิต ที่นี่ ยูคาลิปตัส ถือเป็นไม้เนื้อแข็ง (จริงๆ บ้านเราจัดให้เป็นไม้เนื้ออ่อน) เป็นพืชพื้นเมืองที่มีมากที่สุด จำลองเป็นเหมือนห้องเรียนขนาดใหญ่ หลังฟังการบรรยาย (ที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง) ก็เดินตามทางที่เขาทำไว้เป็นแนว ฟังการอธิบายลักษณะต้นไม้ ที่บอกว่าอายุราว 300 ปี มีที่น่าสนใจอย่างเช่น ต้นสนที่ผลโตเท่าลูกฟุตบอลล์ (หล่นโดนหัวเละแน่) เคยหล่นโดนไม้หน้าสามที่เขาทำรั้วสะพาน (หนา 2x3 นิ้ว) หักเลย แต่ละเมล็ดของมัน โตเท่าลูกปิงปอง พื้นที่ที่ถูกทำลาย ก็มีข้อความบรรยายทำด้วยโลหะ วางเอียงบนตอเสาเตี้ยๆ ให้อ่าน บรรยายการฟื้นฟูป่า ดูเขตต่อเนื่อง (Ecotone) ที่เปลี่ยนเป็นป่าดงดิบแทนป่าสน รวมถึงชีวิตสัตว์ป่า ที่พูดถึงนก เบลเบิร์ด ซึ่งทำให้แมลงระบาด เพราะเป็นนกที่ต้องการพื้นที่ตนเอง ไล่จิกนกอื่นๆ ที่จะมากินแมลง ทำให้ Bug (แมลงปีกแข็ง) แพร่พันธุ์ทำลายป่า